กฐินสามัคคีประเพณีพุทธวิหาร วัดพระธรรมจักร

ความหมายและความเป็นมาของ กฐิน


"กฐิน" เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษาบาลีว่า "กฏินะ" ซึ่งแปลว่า ไม้สะดึง หรือ ไม้ขึงผ้า ที่ใช้สำหรับยึดผ้าให้ตึง เพื่อให้เย็บจีวรได้สะดวก เป็นเครื่องหมายของความพร้อมเพรียง สามัคคี และเสียสละร่วมกันของพระสงฆ์
ตามพระวินัย ?การทอดกฐิน? คือการที่พระสงฆ์ซึ่งจำพรรษาอยู่ร่วมกัน ณ วัดเดียวกัน ตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนถึงวันออกพรรษา (ครบ 3 เดือน) ร่วมกันจัดทำผ้าจีวรขึ้นผืนหนึ่ง และมีมติพร้อมเพรียงกันถวายแก่พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่เห็นสมควร เป็นผู้ใช้ผ้าผืนนั้นแทนสงฆ์ เป็นการแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวและความสามัคคีของหมู่สงฆ์

ความเป็นมาในพระไตรปิฎก


เรื่องราวของการเกิดพิธีทอดกฐินปรากฏใน พระวินัยปิฎก ขันธกะวรรค โดยมีเหตุการณ์สำคัญดังนี้:
ครั้งหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี ภิกษุจำนวน 30 รูป จากรัฐปาไฐย ซึ่งถือธุดงควัตรอย่างเคร่งครัด ได้เดินทางไปเพื่อเฝ้าพระพุทธองค์ แต่ไม่ทันถึงก่อนวันเข้าพรรษา จึงจำเป็นต้องจำพรรษา ณ เมืองสาเกต

ระหว่างพรรษา แม้จะอยู่ห่างจากพระพุทธองค์เพียง 6 โยชน์ (ประมาณ 96 กิโลเมตร) แต่ก็ไม่สามารถไปเฝ้าได้ จึงเกิดความรำลึกถึงพระองค์ตลอดระยะเวลานั้น

หลังออกพรรษา แม้ฝนยังตกหนักและหนทางเต็มไปด้วยโคลนลื่น พวกท่านก็ยังเดินทางฝ่าความลำบากไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ พระเชตวันวิหาร ด้วยจีวรที่เปียกชุ่ม

เมื่อถึงแล้ว พระพุทธองค์ตรัสถามถึงความเป็นอยู่ในพรรษา และภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ตลอดพรรษาได้อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ไม่ทะเลาะกัน และไม่ลำบากด้วยอาหารบิณฑบาต

พระพุทธองค์ทรงยินดีในความสามัคคีของหมู่สงฆ์ จึงมีพระพุทธบัญญัติให้มีการ "ทอดกฐิน" ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความร่วมแรงร่วมใจของสงฆ์ และถือเป็นกุศลกรรมที่ผู้ถวายจะได้รับอานิสงส์อย่างยิ่ง

อานิสงส์ของการทอดกฐิน


การถวายกฐินมีอานิสงส์มาก เพราะเป็น ?มหากุศล? ที่สงเคราะห์หมู่พระสงฆ์พร้อมกัน ผู้ถวายจะได้รับผลบุญอย่างยิ่ง อันได้แก่:
  • ได้ชื่อว่าเป็นผู้ถวายผ้ากฐินในพุทธบัญญัติ
  • ได้สร้างความสามัคคีในหมู่สงฆ์
  • เกิดความปีติ สร้างบุญใหญ่พร้อมหมู่คณะ
  • เกิดเป็นเหตุแห่งโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและการงาน


แนวปฏิบัติ "กฐินสามัคคีตัวจริง" ของศูนย์พุทธวิหาร จ.นครนายก


ทางศูนย์พุทธวิหาร จ.นครนายก ได้ริเริ่มแนวปฏิบัติ "กฐินสามัคคี" ที่แตกต่างออกไปจากธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม "กฐินสามัคคีตัวจริง" ให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านได้มีโอกาสร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินโดยไม่มีข้อจำกัดด้านฐานะหรือกำลังทรัพย์

ที่มาและเหตุผลในการริเริ่มแนวคิด


แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการที่ชาวบ้านจำนวนมากในชุมชนรู้สึกว่าตนเอง ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพกฐิน เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านสตางค์หรือมีฐานะที่ไม่ค่อยดีนัก พวกเขารู้สึกว่าการทอดกฐินในบางครั้งนั้น ไม่เหมือนการทำบุญ แต่กลับเหมือนการประมูลกฐิน ตามกติกาของกรมการศาสนาที่อนุญาตให้ผู้จองกฐินต้องบอกจำนวนเงินสูงสุดไว้ และหากมีผู้เสนอเงินสูงกว่า ผู้ที่จองไว้ก่อนจะต้องหลีกทางให้ ซึ่งความรู้สึกนี้ "ขัดความรู้สึกในการทำบุญ" ของประชาชนทั่วไป
อาจารย์จึงเล็งเห็นว่า ในสมัยพุทธกาล การทำกฐินเกิดจากการที่ผ้าจีวรไม่พอ และพระสงฆ์ก็ได้ร่วมสามัคคีกันนำผ้าที่แต่ละรูปมีมารวมกันเพื่อทำเป็นจีวร สบง หรือสังฆาฏิ จากแนวคิดนี้ จึงเกิดคำถามขึ้นว่า "ทำไมที่ศูนย์เราไม่ทำแบบนี้" เพราะนี่คือ "การสามัคคีตัวจริง"

เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าถึงการเป็นเจ้าภาพกฐินและส่งเสริมความสามัคคีที่แท้จริง ทางศูนย์ฯ จึงได้กำหนดแนวปฏิบัติพิเศษดังนี้:
  • เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม: แนวคิดหลักคือ "มีเงิน 1 บาทก็เป็นเจ้าภาพกฐินได้" ซึ่งต่างจากกติกาแบบเดิมที่เน้นการประมูลด้วยจำนวนเงินสูงสุด
  • การแบ่งผ้ากฐินเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย: เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าภาพได้ ทางศูนย์ฯ จึงได้ แบ่งผ้าออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตามการตัดเย็บจีวร (เช่น ในปีหนึ่งอาจมีผ้าจำนวน 316 ชิ้น)
  • การจองจัดสละ (จองชิ้นส่วนผ้า): ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าภาพกฐินนั้น จะต้องมาจองจัดสละ (จองชิ้นส่วนของผ้า) ก่อน วิธีนี้ทำให้คนจำนวนมากสามารถมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพร่วมกันได้จริง ๆ
  • ส่งเสริมความสามัคคีที่แท้จริง: การที่ผู้คนจำนวนมากได้ร่วมกันบริจาคปัจจัยคนละเล็กละน้อย เพื่อประกอบขึ้นเป็นองค์กฐินและผ้ากฐินนั้น ถือเป็นการสร้าง "ความสามัคคีตัวจริง" ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของบุญใหญ่ร่วมกันโดยไม่รู้สึกถึงการแข่งขันหรือข้อจำกัดทางการเงิน
  • การนำปัจจัย (เงินบริจาค) ไปใช้: ปัจจัย (เงินบริจาค) ที่ญาติโยมถวายมากับการทอดกฐินสามัคคีนี้ จะถูกนำไปใช้เป็น ค่าใช้จ่ายประจำปีของศูนย์ฯ โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่างๆ เช่น: ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าซ่อมบำรุงต่างๆ

พุทธวิหาร ศูนย์กลางการศึกษาวิปัสสนาธุระ วัดพระธรรมจักร และมูลนิธิพุทธวิหาร


พุทธวิหารและมูลนิธิพุทธวิหาร เป็นองค์กรที่ดำเนินงานด้านพระพุทธศาสนา โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและเผยแผ่ธรรมะอย่างถูกต้องตามหลักพระไตรปิฎก ด้วยวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ
  1. ด้านการศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนาธุระ
  2. ส่งเสริมการปฏิบัติวิปัสสนาในระดับที่มุ่งหวังผลอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในธรรมะอย่างลึกซึ้ง
  3. ด้านการศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎก
  4. สนับสนุนการเรียนรู้พระไตรปิฎกและหลักฐานประกอบ อย่างมีระบบและต่อเนื่อง เพื่อธำรงรักษาพระธรรมวินัยให้บริสุทธิ์และถูกต้อง
  5. ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
  6. ให้บริการทางการศึกษาแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ธรรมะเข้าถึงผู้สนใจทุกระดับอย่างเสมอภาค
ในแต่ละปี มีผู้ปฏิบัติธรรมจากทั้งภายในและภายนอกพระพุทธศาสนา ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตจากหลากหลายประเทศเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์ฯ เพิ่มสูงขึ้นตามสัดส่วน ได้แก่
  • ค่าอาหารและน้ำปานะสำหรับพระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ผู้มาปฏิบัติธรรมตลอดทั้งปี
  • ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าวัสดุอุปกรณ์
  • ค่าสวัสดิการสำหรับพระวิปัสสนาจารย์ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำ
  • ค่าจ้างบุคลากรทั่วไป เช่น พ่อครัว คนสวน แม่บ้าน ฯลฯ
  • ค่าบำรุงรักษากุฏิ ศาลา และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ภายในศูนย์ฯ รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์สำนักงาน
  • ค่าใช้จ่ายทั่วไปอื่น ๆ ตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ การดำเนินงานของศูนย์ฯ อาศัยแรงศรัทธาและการสนับสนุนจากประชาชนเป็นหลัก โดยไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนเป็นการเฉพาะ

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ ทอดกฐินสามัคคีประเพณีพุทธวิหาร

ณ.พุทธวิหาร ศูนย์กลางการศึกษาวิปัสสนาธุระ
วัดพระธรรมจักร ต.ดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก
โทร: 037-349-804 ธุรการ: 085-094-6981

ขออานิสงส์ของบุญกุศลในครั้งนี้ จงเป็นบารมีธรรมให้ท่านทั้งหลายได้ถึงพร้อมมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และพระนิพพานสมบัติ มีปัญญาญาณเข้าถึงพระสัทธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆขึ้นไปจนถึงพระนิพพานเทอญ



📅 April 21, 2025, 10:20 am