1. ควรงดเว้นของเสพติดทุกชนิดล่วงหน้า เช่น ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน หรือบุหรี่ เป็นต้น เพื่อจะได้ปรับตัว และเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการฝึกอบรม ทั้งนี้เนื่องจากกาแฟ บุหรี่ หรือสิ่งที่ทำให้มึนเมาอื่นๆ มีผลในการกดระบบประสาท ไม่สามารถพัฒนาสตินทรีย์ได้ ถึงตั้งใจศึกษาย่อมลำบากมากต่อผู้ศึกษา
2. ควรเปิดใจเรียนรู้และปรับตัวสู่การเรียนการสอนตามที่ครูกัมมัฏฐานในโครงการฯ แนะนำ หากผู้เข้าอบรมมักยึดติดความรู้เดิมและนำมาทดลองใช้ในขณะปฏิบัติ จะทำให้เกิดผลเสีย ต้องใช้เวลามากขึ้นในการแก้ไขและปรับความเข้าใจที่ถูกต้อง และหากยังไม่ยอมปรับตัวเข้าสู่การเรียนการสอนตามครูที่แนะนำ ก็ย่อมมีผลต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติและไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายได้
3. ควรงดการใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด เช่น ไม่ควรใช้โทรศัพท์ หรือติดต่อกับผู้ใด ในช่วงการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน
4. ควรตัดความกังวลในภารกิจทุกๆ ประเด็นที่จะทำให้อุปสรรคต่อการปฏิบัติ
5. ควรพูดงดเว้นการพูดคุยสนทนา หรือถามสภาวะกับผู้เข้าอบรมด้วยกันเอง เพราะจะเป็นภัยแก่ตนเองและผู้อื่น หากมีข้อสงสัยในการปฏิบัติ ให้สอบถามครูผู้สอนหรือวิปัสสนาจารย์เท่านั้น
6. ควรงดการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ เพราะจะทำให้ความเพียรไม่คงที่ ไม่สามารถรักษาปริมาณความต่อเนื่องและคุณภาพของงานไว้ได้ จึงมีผลทำให้ความก้าวหน้าในการปฏิบัติที่เคยทำได้ถอยลงมา
7. ควรงดสวดมนต์ อ่านหนังสือ หรือเขียนหนังสือ ขณะอยู่ในภาคปฏิบัติ
8. ควรอยู่ในบริเวณที่กำหนดให้เท่านั้น ไม่ควรออกนอกสถานที่ปฏิบัติ ถ้ามีธุระจำเป็นต้องออกจากศูนย์ ต้องได้รับอนุญาตจากครูกัมมัฏฐานในโครงการฯ ก่อน
9. ควรตั้งใจปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด

การแต่งกาย